|
น่ารู้สำหรับผู้ไฝ่หาความจริง อ่านแล้วคิด
ฮิซบุลลอฮฺ "กลุ่มก่อการร้าย" หรือ "ขบวนการปลดปล่อย"? |
| |
ผู้เขียน: แล้วจะได้รู้ว่าใครคือผู้ก่อการร้าย ในเวบบอร์ดผู้จัดการออนไลน์ |
| |
"ฮิซบุลลอฮฺ" ในเลบานอน
ดูเหมือนว่า สถานการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นในเลบานอนคงไม่ใช่เรื่องที่จะจบง่ายๆ เสียแล้ว เพราะเป้าหมายที่แท้จริงของอิสราเอลที่เข้าไปถล่มเลบานอนไม่ได้อยู่ที่การช่วยเหลือชีวิตทหารชาวยิว 2 นาย ที่ถูกกลุ่มฮิซบุลลอฮฺจับตัวไปตั้งแต่วันที่ 19 กรกฎาคมที่ผ่านมาเท่านั้น
แต่อิสราเอลต้องการทำลายล้างกลุ่มฮิซบุลลอฮฺให้สิ้นซากมากกว่า
เหตุการณ์ในเลบานอนครั้งนี้ ทำให้กลุ่มฮิซบุลลอฮฺกลายเป็นกลุ่มที่ได้รับความสนใจจากผู้ที่ติดตามสถานการณ์ในตะวันออกกลางอย่างมาก
ดังนั้น ในบทความชิ้นนี้ผู้เขียนจึงอยากจะนำเสนอข้อมูลบางอย่างเกี่ยวกับกลุ่มฮิซบุลลอฮฺ เพื่อที่จะเป็นพื้นฐานในการวิเคราะห์และทำความเข้าใจปัญหาความขัดแย้งในเลบานอนที่กำลังอยู่ในกระแสความสนใจของสังคมโลกปัจจุบันต่อไป
คำว่า "ฮิซบุลลอฮฺ" ประกอบขึ้นจากคำนามภาษาอาหรับ 2 คำที่ถูกนำมาเชื่อมต่อกัน คือคำว่า "ฮิซบฺ" กับ "อัลลอฮฺ" ทั้ง 2 คำรวมกันแปลว่า "พรรคของพระเจ้า" (The Party of God)
ชื่อนี้ได้รับแรงบันดาลใจมาจากโองการหนึ่งของอัล-กุรอ่านที่ว่า "และผู้ใดให้อัลลอฮฺและร่อซูลของพระองค์ และบรรดาผู้ศรัทธา เป็นมิตรแล้วไซร้ แท้จริงพรรคของอัลลอฮฺนั้น คือ พวกที่ชนะ" (อัลมาอิดะฮฺ : 56)
ฮิซบุลลอฮฺ เป็นองค์กรของชาวมุสลิมชีอะฮฺในเลบานอนภาคใต้ที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางในฐานะที่เป็นองค์กรช่วยเหลือสังคม กิจกรรมของกลุ่มมีทั้งการทำสื่อ การช่วยเหลือด้านการศึกษา การบริการสาธารณะสุข การวิจัย ฯลฯ
ซึ่งบทบาทด้านการช่วยเหลือสังคมดังกล่าว ถือเป็นกิจกรรมที่สำคัญมากที่สุดขององค์กรนับตั้งแต่สงครามกลางเมืองในเลบานอนยุติลงเมื่อหลายปีก่อน นอกจากนั้น กลุ่มฮิซบุลลอฮฺยังเข้าไปเล่นการเมืองในระดับชาติอีกด้วย
แม้กระนั้นก็ตาม คนส่วนใหญ่ทั่วโลกกลับรู้จักฮิซบุลลอฮฺในฐานะที่เป็นกลุ่มขบวนการติดอาวุธที่ใช้ความรุนแรงเพียงด้านเดียวมากกว่า
บางคนถึงกับประณามฮิซบุลลอฮฺว่าเป็นกลุ่มก่อการร้ายด้วยซ้ำไป เพราะเป็นกลุ่มที่เคยสร้างความเสียหายให้แก่สหรัฐมากที่สุดกลุ่มหนึ่ง
แม้จะก่อตั้งขึ้นอย่างเป็นทางการในปี ค.ศ.1982 แต่จุดกำเนิดของฮิซบุลลอฮฺก็เริ่มต้นขึ้นก่อนหน้านั้น
เริ่มจากการที่นักการศาสนาชาวอิหร่านคนหนึ่งที่ชื่อ มุอัสสา ศอดร์ ซึ่งย้ายมาอยู่ที่เลบานอนทางภาคใต้ในช่วงทศวรรษที่ 1960 ได้ก่อตั้งขบวนการหนึ่งขึ้นมาเรียกว่า "ขบวนการของคนด้อยโอกาส" (Movement of the Deprived) ที่เรียกร้องสิทธิและการปกป้องคนยากคนจนในพื้นที่ภาคใต้ของเลบานอน โดยมีกองกำลัง "อะมัล" (Armal) เป็นปีกทางการทหารที่คอยสู้รบกับศัตรูในสงครามกลางเมืองที่เกิดขึ้น
มุอัสสา ศอดร์ หายตัวไประหว่างที่ไปเยือนลิเบียในปี ค.ศ.1978 แม้กระนั้นชื่อของเขาก็มักถูกอ้างถึงอยู่บ่อยๆ ในคำแถลงการณ์ของ ซัยยิด ฮัซซัน นัสรุลลอฮฺ ซึ่งเป็นผู้นำคนปัจจุบันของกลุ่มฮิซบุลลอฮฺ สิ่งนี้สะท้อนให้เห็นถึงว่า อุดมการณ์ของ "ขบวนการของคนด้อยโอกาส" ไม่ได้หายไปพร้อมๆ กับตัวผู้นำของขบวนการ
กลุ่มฮิซบุลลอฮฺจึงก่อกำเนิดขึ้นจริงๆ ในช่วงที่อิสราเอลเข้ามารุกรานเลบานอนในปี 1982 เป้าหมายหลักของกลุ่มจึงอยู่ที่การต่อต้านการยึดครองเลบานอนของอิสราเอล พร้อมกันนั้น ก็พยายามสร้างความเป็นอยู่ที่ดีให้แก่ชุมชนชาวชีอะฮฺทางภาคใต้ของประเทศ
พลังอำนาจของกลุ่มฮิซบุลลอฮฺเพิ่มขึ้นอย่างมากท่ามกลางสงครามกลางเมืองที่ดุเดือดที่สุดตลอดช่วงทศวรรษที่ 1980 จนในที่สุดกองกำลังของฮิซบุลลอฮฺก็เข้ามาแทนที่กองกำลังอะมัลในพื้นที่รอบๆ กรุงเบรุต
การต่อต้านกองกำลังอิสราเอลของกลุ่มฮิซบุลลอฮฺค่อยๆ เพิ่มความเข้มข้นขึ้นตามวันเวลา จากการทำสงครามตามรูปแบบ ก็เปลี่ยนมาเป็นใช้การสู้รบแบบกองโจร จนอิสราเอลไม่สามารถอดทนต่อความสูญเสียของฝ่ายตนได้ จึงตัดสินใจถอนทัพออกไปจากเลบานอนในปี 2000
นอกจาการต่อต้านอิสราเอลแล้ว ฮิซบุลลอฮฺยังเข้าไปเล่นการเมือง โดยสามารถครองที่นั่งในรัฐสภาได้ถึง 23 ที่นั่ง จากทั้งหมด 128 ที่นั่ง ในการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา รัฐมนตรีกระทรวงพลังงานและน้ำคนปัจจุบันก็เป็นสมาชิกของกลุ่มฮิซบุลลอฮฺ ความจริงกลุ่มฮิซบุลลอฮฺเข้ามามีบทบาททางการเมืองนับตั้งแต่การเลือกตั้งครั้งแรกหลังสงครามกลางเมืองในปี 1992 แล้ว
อย่างไรก็ตาม เป้าประสงค์ที่แท้จริงของการก่อตั้งกลุ่มฮิซบุลลอฮฺคือ การปลดปล่อยเลบานอนจากการยึดครองของอิสราเอล
ฮิซบุลลอฮฺถือว่าอิสราเอลเป็นรัฐที่ถือกำเนิดขึ้นอย่างผิดกฎหมาย เพราะการแย่งชิงดินแดนของชนชาติอื่นมาครอบครอง แม้ว่าอิสราเอลจะถอนกำลังออกไปจากเลบานอนแล้ว แต่ฮิซบุลลอฮฺก็ยังมีอีก 2 ภารกิจที่จะต้องสะสาง คือปัญหาความขัดแย้งเหนือดินแดน shebaa Farms ที่อยู่ภายใต้การยึดครองของอิสราเอล และการช่วยเหลือนักโทษชาวอาหรับที่ถูกอิสราเอลจับกุมไว้
ในประเด็นแรก Shebaa Farms ตามทรรศนะของรัฐบาลเลบานอน ถือเป็นดินแดนส่วนหนึ่งของประเทศ แต่ในขณะเดียวกัน อิสราเอลกลับอ้างว่าดินแดนนี้เป็นส่วนหนึ่งของซีเรียที่ถูกอิสราเอลยึดครองอยู่ ทั้งนี้ Shebaa Farms ถือเป็นดินแดนที่สำคัญทางยุทธศาสตร์ เพราะเป็นดินแดนที่อยู่สูงกว่าที่ราบสูงโกลาน (Golan Heights) ของซีเรีย ซึ่งเป็นดินแดนที่อิสราเอลยึดครองมาตั้งแต่หลังสงคราม 6 วันในปี 1967
ประเด็นต่อมาคือเรื่องการช่วยเหลือนักโทษชาวอาหรับ ซึ่งมีจำนวนกว่า 10,000 คน ทั้งที่เป็นชาวปาเลสไตน์และชาวอาหรับรวมกัน ในจำนวนนี้มีนักโทษอยู่ประมาณ 2,000 คนที่เป็นชาวเลบานอน การแลกเปลี่ยนตัวประกันเกิดขึ้นครั้งล่าสุดเมื่อเยอรมันรับอาสาเป็นคนกลางในปี 2004 ในครั้งนั้น ปรากฏว่า อิสราเอลยอมปล่อยตัวประกันชาวอาหรับ 430 คน เพื่อแลกกับนายทหารอิสราเอล 3 นาย และนักธุรกิจอิสราเอลอีก 1 คน
แต่ความจริงก็มีอยู่ว่า ตัวประกันชาวอาหรับที่ยังถูกอิสราเอลจับกุมโดยไม่มีการไต่สวนพิจารณาความผิดยังมีอยู่อีกเป็นจำนวนนับหลายพันคน
ด้วยเหตุนี้ ฮัซซัน นัสรุลลอฮฺ จึงเตือนอิสราเอลมาตลอดว่าจะจับตัวประกันชาวอิสราเอลเพื่อแลกเปลี่ยนกับอิสรภาพของชาวอาหรับต่อไป
หากจะพูดถึงกระแสความนิยมของคนเลบานอนที่มีต่อกลุ่มฮิซบุลลอฮฺ คงต้องบอกว่าเนื่องจากฮิซบุลลอฮฺเป็นกลุ่มมุสลิมชีอะฮฺ ทำให้กลุ่มได้รับความนิยมชมชอบจากชาวมุสลิมชีอะฮฺภายในประเทศที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ทางทิศใต้ของกรุงเบรุต และทางภาคใต้ของเลบานอน
ดังที่ได้กล่าวมาแล้ว กลุ่มฮิซบุลลอฮฺมีกิจกรรมการให้บริการแก่พลเรือนอย่างกว้างขวาง ทั้งในเรื่องการวิจัย การบริการด้านสาธารณสุข การศึกษา สวัสดิการสังคม และการสื่อสาร กิจกรรมเหล่านี้ล้วนเป็นกิจกรรมที่เสริมส่งให้กลุ่มฮิซบุลลอฮฺได้รับความนิยมชมชอบ ได้รับการยอมรับและการสนับสนุนจากสังคมเลบานอนมากยิ่งขึ้น
ในขณะเดียวกัน ความสำเร็จของฮิซบุลลอฮฺที่สามารถขับไล่อิสราเอลออกไปจากประเทศในปี 2000 ก็ยิ่งเพิ่มกระแสความนิยมให้แก่ฮิซบุลลอฮฺเป็นอย่างมาก และจากการที่ซีเรียต้องถอดถอนกองกำลังออกไปจากเลบานอนตามมติของสภาความมั่นคงแห่งสหประชาชาติเมื่อปลายปีที่แล้ว ทำให้กองกำลังของกลุ่มอิซบุลลอฮฺเป็นกองกำลังที่ทรงอิทธิพลมากที่สุดในปัจจุบัน เมื่อเป็นเช่นนี้ชาวเลบานอนจำนวนมากจึงเชื่อว่า ผู้ที่จะปกป้องบูรณภาพแห่งดินแดนของประเทศได้ ก็มีแต่กองกำลังของกลุ่มฮิซบุลลอฮฺเท่านั้น
ในสายตาของโลกมุสลิมภายนอก ฮิซบุลลอฮฺถือเป็นองค์กรหนึ่งในไม่กี่องค์กรที่สามารถท้าทายพลังอำนาจของอิสราเอล (ที่ได้รับการหนุนหลังจากสหรัฐ) และเป็นองค์กรที่ประสบความสำเร็จทั้งทางด้านการเมืองและการทหาร ฉะนั้น ยิ่งชาวเลบานอนถูกอิสราเอลทำร้ายมากเท่าใด ก็จะยิ่งเพิ่มกระแสความนิยมให้แก่กลุ่มฮิซบุลลอฮฺมากขึ้นเท่านั้น
แต่สำหรับสหรัฐ อิสราเอล อังกฤษ แคนาดา และออสเตรเลียแล้ว ฮิซบุลลอฮฺ คือกลุ่ม "ก่อการร้าย" ที่ไม่แตกต่างอะไรมากนักกับอัล-กออิดะฮฺของ บิน ลาดิน แม้ว่ารัฐบาลเลบานอนและอีกหลายๆ ประเทศจะให้การยอมรับฮิซบุลลอฮฺในฐานะที่เป็นขบวนการต่อต้านที่มีความชอบธรรมก็ตาม
ประเด็นที่น่าสนใจตรงนี้คือ ตกลงกลุ่มฮิซบุลลอฮฺถือเป็น "กลุ่มก่อการร้าย" หรือเป็น "ขบวนการปลดปล่อย"?
หรือมาตรฐานการตราหน้าว่ากลุ่มใดกลุ่มหนึ่งเป็นกลุ่มก่อการร้ายในปัจจุบัน จะขึ้นอยู่กับว่ากลุ่มขบวนการนั้นๆ สร้างบาดแผลความเจ็บแค้นและทำลายผลประโยชน์ของประเทศมหาอำนาจมากแค่ไหน เพราะประเทศมหาอำนาจเองเป็นผู้ที่ควบคุมสื่อและมีบทบาทสำคัญในการสร้างกระแสความคิดในสังคมโลก?
ที่มา : ศราวุฒิ อารีย์ ศูนย์มุสลิมศึกษา สถาบันเอเชียศึกษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
http://www.muslimcampus.com/news_read.php?id=906 | |
|