1. นับตั้งแต่อดีตกาลจวบจนปัจจุบัน ชาวยิวได้อ้างตนเองว่าพวกเขาเป็นพลพรรคของพระผู้เป็นเจ้าที่ถูกเลือกเฟ้นขึ้นมา และเป็นผู้ที่มีฐานันดรอันสูงศักดิ์ ซึ่งถูกสร้างมาเพื่อเป็นนายแห่งมวลมนุษยชาติ และควบคุมกิจการต่างๆของทุกศาสนิกชนเพื่อจะได้ตกอยู่ใต้อาณัติของพวกเขาโดยสิ้นเชิง แม้กระทั่งในเรื่องของพระเจ้าพวกเขากล่าว อัลเลาะห์นั้นเป็นพระเจ้าเฉพาะพวกฮิบรู หรือพระเจ้าของชาวอิสราเอลเท่านั้น ในช่วงแรกๆมแกระทั่งสหประชาชาติยังถือว่าไซออนิสต์เป็นขบวนการสร้างความปั่นป่วนให้กับชาวโลก และเหยียดชนชาติ และได้ออกมากล่าวประนาม แต่ต่อมาสหประชาชาติร้อยกว่าประเทศก็ตกเป็นทาสรับใช้ไซออนิสต์ และได้มีมติยกเลิกการกล่าวประณามพวกเขา จึงทำให้ชาวยิวเอง และนักบวชชาวยิวได้ออกมารวมตัวกันประท้วงหน้ากงสุลอิสราเอล ในนครนิวยอร์ค ขณะที่สหพันธ์กลางของสหประชาชาติได้มีมติยกเลิกการกล่าวประนามยิวไซออนิสต์
2. และสิ่งที่น่าสะพึงกลัวที่สุดสำหรับมนุษยชาติก็คือ สนธิสัญญาเบื้องต้นของผู้นำขบวนการยิวไซออนิสต์ ซึ่งจัดประชุมกันขึ้นครั้งแรกในเมือง Bale หรือ Basel ที่ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ในปี ค.ศ. 1897 โดยแกนนำของ นายเฮอร์เซ็ล ซึ่งเป็นหนึ่งในจำนวนของผู้ก่อตั้งขบวนการยิวไซออนิสต์ ซึ่งได้มีมติแบบลับๆ ทั้ง 24 แผนการชั่วร้ายเพื่อทำให้มนุษยชาติทั้งหมดตกเป็นทาสและทำให้พวกเขาได้ครอบครองโลก จึงใคร่ขอหยิบยกมากเพียงบางส่วนเท่านั้นดังต่อไปนี้
2.1 แผนการแรกก็คือ พวกเขากล่าวว่า ไม่ว่าจะด้วยวิธีใดก็ตามเพื่อให้ได้มาซึ่งเป้าประสงค์ของพวกเรา สิ่งนั้นคือความถูกต้องและเที่ยงธรรม และมนุษย์ในทั่วทุกมุมโลกนั้นมีธรรมชาติและนิสัยที่เลวร้ายมากกว่านิสัยที่ดี ดังนั้นการปฏิบัติที่ดีที่สุดสำหรับพวกเราก็คือ การใช้ความรุนแรง และการก่อการร้าย ไม่ใช่การต่อรองและใช้วิทยปัญญาเพื่อพวกเราจะได้เป็นผู้นำมนุษยชาติทั้ง
2.2 แผนการที่สองก็คือ การให้คนชั้นต่ำขึ้นมาเป็นผู้นำ พวกเขากล่าว เราจะเลือกคนชนชั้นสามัญขึ้นมาเป็นผู้นำโดยมิต้องฝึกฝนหรือใช้ความชำนาญในด้านการปกครองแต่อย่างใด และเราจะให้หลับทรัพย์คอยสนับสนุนจุนเจือพวกเขาเพื่อให้พวกเขาเชื่อฟังและสวามิภักดิ์กับพวกเราตลอดไป
2.3 แผนการที่สามคือการทำให้มนุษย์โลกแข่งขันและชัดแย้งกันด้านเศรษฐกิจ พวกเขากล่าวว่า พวกเราจะต้องล้างสมองมนุษย์ด้วยการถอดความคิดเรื่องพระผู้เป็นเจ้า ออกจากสมองบรรดามุสลิมและพยายามทำให้พวกเขาหมกมุ่นกันในด้านการเงิน และวัตถุนิยม เพื่อให้พวกเขาใช้ความคิดหมดไปกับอุตสาหกรรมและการค้า และต่อไปเราจะกำหนดภาษีทางการค้าให้หนักขึ้น และทรัพยากรทางการเงินของบรรดานักลงทุนก็จะหลั่งไหลเข้ามาในคลังการเงินของพวกเราโดยพวกเขามิต้องขวนขวายแต่อย่างใด จนกระทั่งผลสุดท้ายมนุษยชาติจะแข่งชันกันเองเพื่อความก้าวหน้าทางด้านเศรษฐกิจ เห็นแก่ตัว มีความเสื่อมทรามทางด้านศีลธรรมจนในที่สุดมนุษยชาติจะเป็นว่า ทองคำ จะเป็นพระเจ้าแต่เพียงอย่างเดียว
2.4 การเข้าครอบงำทางด้านความคิด พวกเขากล่าวว่า คำว่าสิทธิเสรีภาพต่อไป เราจะให้มันมีความหมายว่า สิ่งที่กฎหมายกำหนดมานั่นคือ เสรีภาพ และจะไม่มีกฎหมายใดๆทั้งสิ้นนอกจากสิ่งที่พวกเขาปรารถนา ดังนั้นจะไม่มีข้อมูลข่าวสารใดๆทั้งสิ้น ไปสู่สายตามนุษยชาตินอกจากจะต้องผ่านการกลั่นกรองจากองค์กรของพวกเรา และเราจะไม่มีแพร่ภาพข่าวสารใดๆทั้งสิ้นนอกจากสิ่งที่เราได้เลือกเฟ้นแล้วเท่านั้น และต่อไปเราจะกำหนดภาษีอากรสำหรับผู้เผยแพร่ข่าวสารข้อมูลและหนังสือต่างๆให้ทวีคูณยิ่งขึ้น และผู้จัดพิมพ์ตามโรงพิมพ์ต่างๆจะต้องขอใบอณุญาติจากพวกเราเพื่อเราจะได้รู้ล่วงหน้าสำหรับการวางแผนทำร้ายที่ต่อต้านพวกเรา สำหรับวรรณกรรมและหนังสือพิมพ์ต่างๆเราจะจัดการกว้านซื้อทั้งหมดเพราะทั้งสองถือว่าเป็นตัวการสำคัญในการป้อนข้อมูลในส่วนภูมิภาคต่างๆทั่วทุกมุมโลก และพวกเราจะทำให้มนุษย์หมกมุ่นอยู่กับความภิรมย์ของสถานที่ต่างๆที่ให้ความบันเทิงรื่นเริงจนลืมที่จะต่อต้านแผนการของพวกเรา
2.5 ความขัดแย้งระหว่างประเทศต่างๆ พวกเราจะต้องสร้างความขัดแย้งให้เกิดขึ้นระหว่างประเทศต่างๆเพื่อที่ประเทศต่างๆเหล่านั้นจะหันมาพึ่งพิงพวกเราในด้านการช่วยเหลือสนับสนุนไม่ว่าจะเป็นในด้านหลักทรัพย์หรืออาวุธก็ตาม ดังนั้นประเทศใดก็ตามที่แยกตนเองออกเป็นเอกเทศเพื่อขัดขวางเรา เราจะสั่งห้ามทุกๆประเทศให้การสนับสนุนช่วยเหลือพวกเขา ไม่ว่าจะเรื่องใดก็ตาม และเราถือว่าพวกเขากำลังสร้างความพินาศต่อเสถียรภาพของประเทศของตนเอง เราเป็นพวกที่เข้มแข็งมาก
จำเป็นต่อโลกต้องอาศัยการเกื้อหนุนจากเรา ดังนั้น รัฐบาลของแต่ละประเทศจึงไม่สามาถรออกมาตการใดๆทั้งสิ้นโดยที่มีพวกเราเข้ามาแทรกแซงอย่างลับๆ ประชาชาติต่างๆนอกจากพวกเราแล้วก็เปรียบเสมือนฝูงแกะเล็กที่รอการเข้าบดขยี้ของหมาป่าอย่างพวกเรา
2.6 การรอจัดตั้งกษัตริย์แห่งอิสราเอล พวกเขากล่าวว่า พวกเราจะต้องสร้างองค์กรต่างๆให้ทวีคูณมากขึ้นเพื่อแทรกซึมเข้าไปในสถานที่ต่างๆของโลกที่สำคัญๆ เพื่อเราจะได้รับรู้ข่าวสารตามที่เราต้องการ และต่อไปในขณะที่มงกุฎได้วางอยู่บนหัวกษัตริย์อิสราเอล ชาวยุโรป ทั่วทุกมุมโลกจะต้องร้องสดุดีสรรเสริญและก้มกราบแทบเท้าอย่างสิโรราบ