หลังจากการโจมตีตึกเวิร์ลเทรดเซนเตอร์ หนังสือพิมพ์เยรูซาเล็มโพสต์ซึ่งเป็นหนังสือพิมพ์อิสราเอลท่มีชื่อเสียงมากที่สุดในโลกได้รายงานว่าชาวอิสราเอล 4,000 คนไม่ได้อยู่ในตึกเวิร์ลเทรดขณะที่ถูกโจมตี กระทรวงต่างประเทศได้รวบรวมรายชื่อจากญาติพี่น้องชาวอิสราเอลที่ติดต่อกับกระทรวงต่างประเทศอิสราเอลและได้ให้ชื่อของเพื่อนและญาติชาวอิสราเอลที่ทำงานในตึกเวิร์ลเทรดหรือผู้ที่จะต้องเข้าไปทำธุรกิจในนั้นหรือในตึกที่อยู่ใกล้เคียงหลังจากการโจมตีได้ไม่กี่ชั่วโมง
ถึงแม้จะไม่ได้ดูบทความในหนังสือพิมพ์เยรูซาเล็มโพสต์ เหตุผลอย่างเดียวก็บอกคุณได้ว่าถ้าไม่มีชาวอิสราเอลจำนวนนับพันคนอยู่ในตึกเวิร์ลเทรดเซ็นเตอร์ ก็จะต้องมีชาวอิสราเอลอยู่หลายร้อยคนในตอนที่ถูกโจมตี ธุรกิจการธนาคารและการเงินของพวกยิวสากลนั้นเป็นที่ค่ำลือกันมานานแล้ว ตัวอย่างเช่น บริษัทที่ร่ำรวยที่สุดในนิวยอร์คสองบริษัทก็คือโกลด์แมน-แซคส์และโซโลมอนบราเธอร์ส และทั้งสองบริษัทนี้ก็มีสำนึกงานของตนอยู่ในตึกแฝด ผู้บริหารหลายคนในบริษัทนี้เดินทางไปมายังอิสราเอลอยู่เป็นประจำ นิวยอร์คเป็นศูนย์กลางของอำนาจทางการเงินของชาวยิวทั่วโลกและตึกเวิร์ลเทรดเซนเตอร์ก็อยู่ตรงศูนย์กลางของเมือง แน่นอน เราย่อมจะคิดว่าจำนวนชาวอิสราเอลที่เสียชีวิตคงจะมีจำนวนมากมาย หนังสือเยรูซาเล็มโพสต์ก็คิดเช่นนั้นในวันที่ 12 กันยายน ข้างล่างนี้คือเริ่มต้นของบทความ :
ชาวอิสราเอลนับพันคนไม่ได้อยู่ใกล้ตึกเวิร์ลเทรด และเพนตากอน
รัฐมนตรีต่างประเทศในเยรูซาเล็มได้รับรายชื่อชาวอิสราเอล 4,000 คนที่เชื่อว่าอยู่ในพื้นที่ของตึกเวิร์ลเทรดเซ็นเตอร์และเพนตากอนในตอนที่ถูกโจมตี (พาดหัวและประโยคแรกของบทความในหนังสือพิมพ์เยรูซาเล็มโพสต์) (33)
เมื่อยอร์จ บุชได้ปราศรัยต่อหน้าสภาคองเกรส ปรากฏว่าเขาได้ทำผิดอย่างมหันต์นอกเหนือไปจากการพูดว่าผู้โจมตีตึกเวิร์ลเทรดเซนเตอร์ทำเช่นนั้นก็เพราะพวกเขา“เกลียดเสรีภาพ” บุชได้กล่าวว่านอกจากคนอเมริกันนับพันแล้ว ชาวอิสราเอล 130 คนได้เสียชีวิตในตึกเวิร์ลเทรด ความหมายก็คือเขาจะพูดว่าอิสราเอลก็มีส่วนในความเดือดร้อนของเราด้วย และเขาต้องการจะกล่าวว่าเราและอิสราเอลอยู่ในสิ่งนี้ด้วยกัน เมื่อได้ยินจำนวนชาวอิสราเอลที่เสียชีวิต 130 คน ผมรู้สึกว่ามันน้อยไป ถ้าหากชาวอิสราเอล 4,000 คนอยู่ที่ตึกเวิร์ลเทรดและจำนวนผู้ตายประมาณ 4,500 คน (ประมาณ 10 เปอร์เซนต์ของคนจำนวน 45,000 คนที่อยู่ในตึกนั้นตามปกติ) จำนวนชาวอิสราเอลที่เสียชีวิตก็ควรจะอยู่ในราว 400 คน มิใช่ 130 คน
ในฐานะที่เป็นแห่งทำธุรกิจและการจ้างงาน ตึกเวิร์ลเทรดเซนเตอร์มิใช่สถานที่ประเภทจ่ายค่าจ้างต่ำหรือร้านแมคโดแนลด์ มันเป็นสถานที่ทำงานที่จ่ายค่าจ้างกันแพงๆ มีเทคโนโลยีสูงและเป็นงานระดับสูง เป็นที่ทำงานของผู้บริหารในทางการเงินระหว่างประเทศ การธนาคารและการซื้อขายหุ้น ผมถามเองว่าเป็นไปได้อย่างไรที่มีชาวอิสราเอลตายแค่ 130 คนในขณะที่มีคนจากโคลัมเบียตาย 199 คนและฟิลิปปินส์ 428 คน ?
ในบทความก่อนหน้านี้ ผมได้เขียนเกี่ยวกับเรื่องการก่อการร้าย 11 กันยายน ผมไม่ได้พูดถึงความสงสัยเหล่านี้เพราะผมมักจะถือเสมอในการที่จะไม่เขียนสิ่งใดที่ผมไม่สามารถยืนยันได้ แต่ในขณะที่กำลังจัดเตรียมบทความเกี่ยวกับเรื่องการก่อการร้ายของอิสราเอลต่อปาเลสไตน์และอเมริกา ผมก็ได้พบความจริงที่น่าตกใจที่สุดที่ผมได้เคยพบมาตลอดหลายปีในการศึกษาค้นคว้าและเขียนหนังสือ ผมได้พบความจริงง่ายอย่างหนึ่งที่ขยายผลออกไปได้อย่างกว้างขวางเกี่ยวกับเรื่องการโจมตีของผู้ก่อการร้ายในเดือนกันยายน
ในการศึกษบทความนับร้อยเพื่อที่จะหาตัวเลขที่แท้จริงของผู้เสียชีวิตชาวอิสราเอล ผมได้พบบทความชิ้นหนึ่งในนิตยสารนิวยอร์คไทม์สที่แจกแจงตัวเลขที่ถูกต้องของชาวอิสราเอลที่เสียชีวิตในการโจมตีตึกเวิร์ลเทรดเซนเตอร์ ปรากฏว่าชาวอิสราเอล 130 คนที่ประธานาธิบดีบุชอ้างว่าเสียชีวิตในตึกเวิร์ลเทรดเซนเตอร์นั้น 129 คนยังมีชีวิตอยู่ มีเพียงชาวอิสราเอลที่เสียชีวิตจริงๆเพียง 1 คนเท่านั้น มันเป็นเรื่องเหลือเชื่อจริงๆ “โอพระเจ้า” ผมพูดกับตัวเอง “ชาวอิสราเอลแค่คนเดียวเท่านั้น” นี่เป็นข้อความที่อ้างมาจากนิวยอร์คไทม์สเกี่ยวกับเรื่องนี้ :
แต่การสัมภาษณ์กับเจ้าหน้าที่กงสุลหลายคนเมื่อวันศุกร์แสดงให้เห็นว่ารายชื่อของคนที่รวบรวมมานั้นมีความแตกต่างกันมากและไม่มีประโยชน์ ตัวอย่างเช่น เมืองได้รับรายงานจากชาวอิสราเอลหลายคนที่กลัวว่าชาวอิสราเอลหายไปจากบริเวณนั้นและในคำแถลงต่อประชาชนเมื่อคืนวันพฤหัส ประธานาธิบดีบุชได้กล่าวว่ามีชาวอิสราเอลประมาณ 130 คนเสียชีวิตในการโจมตี
แต่ในวันศุกร์ นายอาลอน พินคาส กงสุลใหญ่อิสราเอลที่นี่ได้กล่าวว่ารายชื่อผู้ที่หายไปได้รวมรายงานจากประชาชนที่โทรเข้ามาด้วยเพราะ ตัวอย่างเช่น ญาติในนิวยอร์คมิได้ตอบโทรศัพท์ที่เรียกมาจากอิสราเอล ความจริงแล้ว มีชาวอิสราเอลเพียง 3 คนเท่านั้นที่ได้รับการยืนยันว่าเสียชีวิต สองคนบนเครื่องบินและอีกหนึ่งคนคือผู้ที่มายังตึกเวิร์ลเทรดเพื่อทำธุรกิจและรู้ว่าเป็นใครและถูกฝังไปแล้ว (นิวยอร์คไทม์ส, 22 กันยายน) (34)
ตัวเลขของผู้เสียชีวิต 130 คนซึ่งต่ำมากแสดงให้เห็นว่าชาวอิสราเอลที่ตึกเวิร์ลเทรดได้ถูกเตือนให้รู้ล่วงหน้าก่อนการโจมตี เมื่อผมพบความจริงว่ามีชาวอิสราเอลเสียชีวิตเพียงคนเดียว ก็ไม่มีข้อสงสัยว่าจะต้องมีการเตือนชาวอิสราล่วงหน้าไว้ก่อน แค่มีชาวอิสราเอลบาดเจ็บหนึ่งคนในจำนวนคนตาย 4,500 คนที่ตึกเวิร์ลเทรดนั้นเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ทางสถิติ ถึงแม้รัฐมนตรีต่างประเทศอิสราเอลและหนังสือพิมพ์เยรูซาเล็มโพสต์จะประเมินจำนวนชาวอิสราเอลในตึกเวิร์ลเทรดเซนเตอร์ไว้สูงเกินไปโดยกล่าวว่ามีถึง 3,000 คน (400 เปอร์เซ็นต์) ก็น่าที่จะมีชาวอิสราเอลถึง 1,000 คนอยู่ที่นั่นในตอนถูกโจมตี อีอย่างหนึ่ง ถ้าหากมีชาวอิสราเอลหลายร้อยคนอยู่ที่นั่นในตอนถูกโจมตี แค่มีชาวอิสราเอลตายเพียงคนเดียวก็เป็นเรื่องที่ไม่มีเหตุผลทางสถิติ ถ้าเช่นนั้น วันที่ 11 กันยายนจะต้องวันหยุดใหญ่ของชาวยิว หรือไม่ก็ชาวอิสราเอลจำนวนมากจะต้องได้รับการเตือนล่วงหน้าถึงการโจมตีครั้งนั้น
การเตือนชาวอิสราเอลล่วงหน้า
สิ่งถัดไปที่ผมศึกษาค้นคว้าก็คือการดูให้แน่ใจว่าชาวอิสราเอลได้รับการเตือนล่วงหน้าก่อนการโจมตีหรือเปล่า ผมได้พบบทความชิ้นหนึ่งในนิวส์ไบท์ซึ่งเป็นบริการข่าวของหนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์ซึ่งมีหัวข้อว่า “ข่าวด่วนถึงอิสราเอลแจ้งการโจมตีตึกเวิร์ลเทรดเซนเตอร์” (35) หนังสือพิพม์รายงานฮาร์เรทซ์ของอิสราเอลก็ไดยืนยันการเตือนชาวอิสราเอลล่วงหน้าและได้ยืนยันว่าเอฟบีไอกำลังสืบสวนการเตือนนี้ (36) บทความหลายชิ้นได้ให้รายละเอียดว่าบริษัทโอดิโกซึ่งเป็นบริษัทส่งข่าวสารของอิสราเอลกับสำนักงานหลายแห่งทั้งในตึกเวิร์ลเทรดเซนเตอร์และในอิสราเอลก็ได้รับคำเตือนหลายครั้งในช่วงสองชั่วโมงก่อนการโจมตี
ข่าวด่วนถึงอิสราเอลแจ้งการโจมตีตึกเวิร์ลเทรด
เจ้าหน้าที่ที่บริษัทส่งข่าวด่วนโอดิโกได้ยืนยันวันนี้ว่าพนักงานสองคนได้รับข่าวสารเตือนถึงการโจมตีตึกเวิร์ลเทรดเซนเตอร์สองชั่วโมงก่อนที่ผู้ก่อการร้ายจะนำเครื่องบินพุ่งชนเข้าไปในใจกลางนิวยอร์ค
แต่นายอเล็กซ์ เดียมันดิส รองประธานฝ่ายขายและการตลาดได้ยืนยันว่าคนงานในสำนักงานศึกษาและพัฒนาและฝ่ายขายระหว่างประเทศในอิสราเอลได้รับคำเตือนจากผู้ใช้โอดิโกอีกแห่งหนึ่งประมาณสองชั่วโมงก่อนการโจมตีครั้งแรก (จากนิวส์ไบท์ในวอชิงตันโพสต์)
ดังนั้น ตอนนี้เรามีหลักฐานที่เชื่อถือได้และมีน้ำหนักจากแหล่งข่าวที่ไม่มีที่ติยืนยันว่าชาวอิสราเอลรู้ล่วงหน้าถึงการโจมตีแล้ว ประการแรก ถ้าหากไม่มีการเตือนล่วงหน้า ก็คงเป็นไปไม่ได้ที่จะมีชาวอิสราเอลตกเป็นเหยื่อที่ตึกเวิร์ลเทรดเซนเตอร์เพียงคนเดียว ประการที่สอง มีการยืนยันอย่างชัดเจนว่าบริษัทกับสำนักงานทั้งในอิสราเอลและในตึกเวิร์ลเทรดได้รับการเตือนทันทีก่อนการโจมตี
ใครที่น่าจะเป็นคนเตือนชาวอิสราเอลในการโจมตี ถ้าไม่ใช่มอสซาดของอิสราเอล ? ความจริงที่รัฐบาลอิสราเอลรู้ล่วงหน้าถึงการโจมตีครั้งนี้และได้เตือนชาวอิสราเอล แต่กลับปล่อยให้ชาวอเมริกันนับพันคนเสียชีวิตนั้นทำให้อิสราเอลต้องรับผิดชอบต่อการโจมตีตึกเวิร์ลเทรดครั้งนี้เช่นเดียวกับผู้ที่โจมตีด้วย
อะไรดีสำหรับอิสราเอล สิ่งนั้นก็เลวสำหรับอเมริกา
คุณแน่ใจได้เลยว่าชาวอิสราเอลจะต้องดีใจที่ได้เห็นควันไฟพวยพุ่งออกมาจากตึกแฝด เอฟบีไอได้จับชาวอิสราเอลห้าคนบนหลังคาตึกหลังหนึ่งใกล้ตึกแฝดขณะที่กำลังบันทึกเทปวีดีโอและแสดงความดีอกดีใจต่อเหตุการณ์ดังกล่าว (37) พวกเขารู้ว่าชาวอเมริกันและการที่โลกต่อต้านลัทธิความเป็นใหญ่และการก่อการร้ายของอิสราเอลได้ถูกทำลายลงพร้อมกับการพังทลายของตึกเวิร์ลเทรดเซนเตอร์ บางทีคำพูดที่บอกเรื่องราวนี้ดีที่สุดก็คือคำพูดเมื่อตอนที่ผู้สื่อข่าวนิวยอร์คไทม์สได้ถามนายเบนจามิน เนทันยาฮู อดีตนายกรัฐมนตรี คนที่หัวรุนแรงเหมือนนายแอเรียล ชารอนทุกอย่าง ต่อไปนี้คือถ้อยคำของอดีตนายกรัฐมนตรีของอิสราเอล :
เมื่อถูกถามว่าการโจมตีครั้งนี้มีความหมายอะไรสำหรับความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯกับอิสราเอล นายเบนจามิน เนทันยาฮู อดีตนายกรัฐมนตรีได้ตอบว่า “มันเป็นเรื่องดีมาก” หลังจากนั้นก็แก้ไขคำพูดเป็นว่า “เออ ไม่ดีมากนัก แต่มันจะสร้างความเห็นอกเห็นใจขึ้นได้ทันที” (38)
การโจมตีตึกเวิร์ลเทรดเซนเตอร์เป็นเรื่องดีสำหรับอิสราเอลอย่างที่เห็นกันอยู่ ความจริงแล้ว อิสราเอลเป็นเพียงชาติเดียวที่ได้รับประโยชน์จากการโจมตีครั้งนี้ บันทึกการก่อการร้ายของอิสราเอลตลอดระยะเวลา 50 ปีได้ถูกภาพการโจมตีอันน่าสะพรึงกลัวของผู้ก่อการร้ายต่อหน้าต่อตานี้บดบังไปอย่างสิ้นเชิง เมื่อสื่ออเมริกันที่ถูกพวกยิวครอบงำได้แสดงภาพชาวปาเลสไตน์ที่ได้รับความทุกข์ทรมานมาเป็นเวลานานกำลังแสดงความยินดีต่อการโจมตี ชาวปาเลสไตน์ก็ได้ถูกป้ายสีโดยไม่เป็นธรรมว่าอยู่เบื้องหลังการโจมตีตึกเวิร์ลเทรดถึงแม้ว่าองค์การชาวปาเลสไตน์ทุกองค์การจะประณามการกระทำดังกล่าวและไม่มีข้อพิสูจน์สักอย่างเดียวที่พิสูจน์ว่าชาวปาเลสไตน์มีส่วนเกี่ยวข้อง
แน่นอน อเมริกาเองต่างหากที่ต้องรับเคราะห์มากที่สุดโดยการที่มีคนตายเกือบ 5,000 คนพร้อมกับเศรษฐกิจทรุดและเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญต้องถูกจำกัดอย่างเลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์อเมริกา กรณีลาวอน กรณีการโจมตีเรือรบลิเบอร์ตี้และการขโมยความลับของโจนาธาน พอลลาร์ดและการฆาตกรรมชาวอเมริกัน 5,000 คนเมื่อวันที่ 11 กันยาย ล้วนเป็นผลดีต่ออิสราเอล แต่มันเลวร้ายอย่างน่าสะพรึงกลัวสำหรับสหรัฐ
เมื่อใดที่อเมริกาจะเข้าใจเสียทีว่าสิ่งที่ดีสำหรับรัฐก่อการร้ายอิสราเอลคือหายนะภัยและมรณภัยสำหรับสหรัฐอเมริกา ?
เมื่อใดที่เราจะหยุดยั้งสายลับอิสราเอลและชาวอเมริกันผู้ทรยศที่ให้การสนับสนุนลัทธิการก่อการร้ายอิสราเอลและเป็นกบฏต่อประเทศของเรามาเป็นเวลา 50 ปี ?
ชีวิตของผมอุทิศให้แก่อเมริกาที่เป็นอธิปไตย มั่นคงปลอดภัยและมีเสรีภาพ อเมริกาที่อุทิศให้แก่ประชาชนของเราและผลประโยชน์ของเรา มิใช่เพื่อวัตถุประสงค์ทางด้านอาชญากรรมของชาติก่อการร้ายชาติหนึ่ง
ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นกับผมเป็นการส่วนตัว ผมก็จะยังคงดำเนินรอยตามทางนี้ต่อไป
ผมขอเรียกร้องให้พวกท่านร่วมกับผม ผมขอร้องพวกท่านว่าอย่าได้ซื้อความมั่นคงปลอดภัยด้วยราคาแห่งเสรีภาพและเกียรติของพวกท่าน
ขอให้กระจายข้อมูลนี้ไปยังชาวอเมริกันคนอื่นๆและส่วนอื่นของโลก ขอให้เราบอกความจริงเกี่ยวกับชาติก่อการร้ายที่เลวที่สุดบนโลก นั่นคือ อิสราเอล ด้วยการทำเช่นนี้ คุณจะช่วยชีวิตไม่เพียงแต่ชาวปาเลสไตน์เท่านั้น แต่ยังได้ช่วยชีวิตและเสรีภาพของคนอเมริกันด้วย
ที่มา : โดย เดวิด ดุค ประธานแห่งชาติ องค์การเอกภาพและสิทธิยุโรป-อเมริกา แปลโดย บรรจง บินกาซัน Source: Thaimuslimshop.com , Davidduke.com